โดย เฮียฮ้อป
ขอเขียนบทความสุดยอดจับฉ่ายในขบวนการจับฉ่าย
มันเหมือนเป็นคำถามฆ่าเวลาซะมากกว่า เหมือนเป็นคำถามที่เอามาถามเพื่อนกันเวลาที่วันๆไม่มีอะไรทำ เหมือนกินข้าวแล้วก็นั่งว่างอยู่เวลาพักที่ทำงานแล้วต้องหาเรื่องคุยกับเพื่อนที่นั่งกินด้วย เหมือนคำพูดจีน (ไม่แน่ใจว่าจีนชนิดไหนแต่ไม่ใช่จีนกลางแน่ๆ น่าจะจีนแต้จิ๋ว?) ที่ว่า "เจียะป้า บ่อสื่อ" ที่แปลว่า กินข้าวอิ่มแล้ว ไม่รู้จะทำอะไร นั่นแหละครับ เลยทำให้มีบทสนทนาระหว่างผมกับเพื่อนร่วมงานขึ้นได้
คำถามแปลกๆนี้จะเริ่มมีเยอะมากมาย และคิดว่าเอามาแบ่งปันบ้างดีกว่า
(หลายคำถามติดเรท ผมจะเลือกเอาคำถามที่มันดูน่าคิดเอามาแล้วกันนะครับ)
คำถามแรกที่ผมนึกได้ว่า หากคุณสามารถเลือกที่จะย้อนเวลากลับไปในอดีต หรือ ท่องเที่ยวไปในอนาคตได้ ในช่วงเวลาร้อยปี (อย่างตอนนี้พ.ศ. 2557 หรือ ค.ศ. 2014 แล้ว จะท่องเที่ยวไปร้อยปี สองร้อยปี หรือมากกว่านั้นในระยะคูณกันกับร้อยปี จะไปในอดีตหรืออนาคต กฎคือไปแล้วต้องอยู่จนตลอดชีวิต ย้อนกลับมาในปัจจุบันไม่ได้ หรือย้อนหรือเปลี่ยนไม่ได้
คำถามประหลาดใจของเพื่อนผมแบบนี้ทำผมลำบากใจ เฮ้ย ตรูจะทำอย่างไร ด้วยความที่ผมรู้มาก่อนว่าร้อยปีที่แล้ว เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ขึ้น (พ.ศ. 2457 หรือ ค.ศ. 1914) ซึ่งเอาจริงๆ ผมไม่รู้บทบาทของประเทศไทยในสมัยนั้น (ผมชอบประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่สองกว่ามากเพราะมันเกิดอะไรที่มนุษย์บนโลกไม่น่าทำเยอะมากจนไม่น่าเชื่อ) แต่ ถ้าเราไปในอนาคต เราจะกลายเป็นคนที่โง่ที่สุดในนั้นหรือเปล่า
แต่ขณะเดียวกัน การที่เราย้อนไปในอดีต ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีความรู้มากพอที่จะไปบอกคนในอดีตว่าเราควรจะทำอย่างไรบ้าง อย่างมากที่ผมทำได้คือกลายเป็นนักเขียนแนว science fiction (Sci-Fi) หรือนวนิยายเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เพื่อให้คนตื่นเต้นว่า โอ้โห ไอ้มนุษย์คนนี้มันรู้อนาคตแฮะ หรืออาจจะทำตัวเป็นหมอดูสังคมก็ได้ (ไม่ดูดวงส่วนตัวเพราะไม่รู้ชื่อประวัติคน ฮ่าๆๆๆ)
คำตอบส่วนใหญ่ของเพื่อนผมคือ กลับไปในอดีต เพราะอย่างน้อย เราก็รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น เพราะเพื่อนผมส่วนใหญ่คิดว่า มันจะกลายเป็นคนที่โง่และไม่รู้อะไรเลยถ้าหากเรากลายเป็นคนที่ไม่มีความรู้อะไรเลยคนหนึ่ง แทนที่จะ "พอรู้อะไรบ้าง" แล้วกลับไปลองดูว่าเราจะเปลี่ยนอะไรได้บ้าง
ผมก็เลือกตอบว่าไปในอดีต แต่พอถามคนไทยแล้ว พบว่า มีแต่คนที่อยากเห็นอนาคต เลยตอบว่าไปอนาคตกันซะเป็นส่วนใหญ่ (ไม่น่าแปลกใจ) แต่ผมว่า ก็น่าสนใจ ทำไมคนไทยกันเองกลับคิดว่าอยากไปในอนาคต เพียงเพื่อสนองตัณหาที่อยากรู้ว่าเค้าทำอะไรกันก่อนหน้านี้แค่นั้น หรือว่าอะไรกันแน่ (เท่าที่จำได้เพราะเค้าอยากเห็นว่าอนาคตเป็นอย่างไร แต่เค้าเลือกกันที่จะไปในร้องหรือสองร้อยปี ไม่ถึงพันปี เพราะทุกคนกลัวว่าถึงตอนนั้นแล้วอาจเกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้น แล้วจะอยู่ไม่ได้)
ลองคิดแล้วตอบกันมาดูก็ได้นะครับ ผมอยากรู้ว่าทุกคนคิดอย่างไร (จับฉ่ายมั้ยล่ะ!!!)
ขอเขียนบทความสุดยอดจับฉ่ายในขบวนการจับฉ่าย
มันเหมือนเป็นคำถามฆ่าเวลาซะมากกว่า เหมือนเป็นคำถามที่เอามาถามเพื่อนกันเวลาที่วันๆไม่มีอะไรทำ เหมือนกินข้าวแล้วก็นั่งว่างอยู่เวลาพักที่ทำงานแล้วต้องหาเรื่องคุยกับเพื่อนที่นั่งกินด้วย เหมือนคำพูดจีน (ไม่แน่ใจว่าจีนชนิดไหนแต่ไม่ใช่จีนกลางแน่ๆ น่าจะจีนแต้จิ๋ว?) ที่ว่า "เจียะป้า บ่อสื่อ" ที่แปลว่า กินข้าวอิ่มแล้ว ไม่รู้จะทำอะไร นั่นแหละครับ เลยทำให้มีบทสนทนาระหว่างผมกับเพื่อนร่วมงานขึ้นได้
คำถามแปลกๆนี้จะเริ่มมีเยอะมากมาย และคิดว่าเอามาแบ่งปันบ้างดีกว่า
(หลายคำถามติดเรท ผมจะเลือกเอาคำถามที่มันดูน่าคิดเอามาแล้วกันนะครับ)
คำถามแรกที่ผมนึกได้ว่า หากคุณสามารถเลือกที่จะย้อนเวลากลับไปในอดีต หรือ ท่องเที่ยวไปในอนาคตได้ ในช่วงเวลาร้อยปี (อย่างตอนนี้พ.ศ. 2557 หรือ ค.ศ. 2014 แล้ว จะท่องเที่ยวไปร้อยปี สองร้อยปี หรือมากกว่านั้นในระยะคูณกันกับร้อยปี จะไปในอดีตหรืออนาคต กฎคือไปแล้วต้องอยู่จนตลอดชีวิต ย้อนกลับมาในปัจจุบันไม่ได้ หรือย้อนหรือเปลี่ยนไม่ได้
คำถามประหลาดใจของเพื่อนผมแบบนี้ทำผมลำบากใจ เฮ้ย ตรูจะทำอย่างไร ด้วยความที่ผมรู้มาก่อนว่าร้อยปีที่แล้ว เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ขึ้น (พ.ศ. 2457 หรือ ค.ศ. 1914) ซึ่งเอาจริงๆ ผมไม่รู้บทบาทของประเทศไทยในสมัยนั้น (ผมชอบประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่สองกว่ามากเพราะมันเกิดอะไรที่มนุษย์บนโลกไม่น่าทำเยอะมากจนไม่น่าเชื่อ) แต่ ถ้าเราไปในอนาคต เราจะกลายเป็นคนที่โง่ที่สุดในนั้นหรือเปล่า
แต่ขณะเดียวกัน การที่เราย้อนไปในอดีต ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีความรู้มากพอที่จะไปบอกคนในอดีตว่าเราควรจะทำอย่างไรบ้าง อย่างมากที่ผมทำได้คือกลายเป็นนักเขียนแนว science fiction (Sci-Fi) หรือนวนิยายเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เพื่อให้คนตื่นเต้นว่า โอ้โห ไอ้มนุษย์คนนี้มันรู้อนาคตแฮะ หรืออาจจะทำตัวเป็นหมอดูสังคมก็ได้ (ไม่ดูดวงส่วนตัวเพราะไม่รู้ชื่อประวัติคน ฮ่าๆๆๆ)
คำตอบส่วนใหญ่ของเพื่อนผมคือ กลับไปในอดีต เพราะอย่างน้อย เราก็รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น เพราะเพื่อนผมส่วนใหญ่คิดว่า มันจะกลายเป็นคนที่โง่และไม่รู้อะไรเลยถ้าหากเรากลายเป็นคนที่ไม่มีความรู้อะไรเลยคนหนึ่ง แทนที่จะ "พอรู้อะไรบ้าง" แล้วกลับไปลองดูว่าเราจะเปลี่ยนอะไรได้บ้าง
ผมก็เลือกตอบว่าไปในอดีต แต่พอถามคนไทยแล้ว พบว่า มีแต่คนที่อยากเห็นอนาคต เลยตอบว่าไปอนาคตกันซะเป็นส่วนใหญ่ (ไม่น่าแปลกใจ) แต่ผมว่า ก็น่าสนใจ ทำไมคนไทยกันเองกลับคิดว่าอยากไปในอนาคต เพียงเพื่อสนองตัณหาที่อยากรู้ว่าเค้าทำอะไรกันก่อนหน้านี้แค่นั้น หรือว่าอะไรกันแน่ (เท่าที่จำได้เพราะเค้าอยากเห็นว่าอนาคตเป็นอย่างไร แต่เค้าเลือกกันที่จะไปในร้องหรือสองร้อยปี ไม่ถึงพันปี เพราะทุกคนกลัวว่าถึงตอนนั้นแล้วอาจเกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้น แล้วจะอยู่ไม่ได้)
ลองคิดแล้วตอบกันมาดูก็ได้นะครับ ผมอยากรู้ว่าทุกคนคิดอย่างไร (จับฉ่ายมั้ยล่ะ!!!)